ห้องที่ ๓๔ : พระยาศรีสิงหเทพ


          ลิงถึงสวนยักษแล้วจำแลง ตนแฮ
เปนกระบี่ไพรแฝงโศกไม้
เหนนางหนึ่งกรรแสงนึกแน่ พระนางนา
คอยคำสงบคนได้ดอดเข้าทูลความ
          ทศภักตรแต่ลักได้นางสี ดาเฮย
มาอยู่ในสวนทวีเทวศเศร้า
จวนจวบขวบฤๅมีภานพบ ภักตร์นา
รุมรอุอกเร้ารักร้อนคนึงถึง
          จำจักเชิญอนุชน้องนวลสมร
มาร่วมทิพยบรรจฐรณ์แท่นแก้ว
เศกเปนปิ่นบังอรอรรคเรศ แลนา
ร่วมเสวตรฉัตรแผ้วผ่องน้ำใจเกษม
          ตริเสร็จเสด็จออกเอื้อนโองการ
สั่งพฤฒินางชาญชว่งใช้
กูจักสู่อุทยานยามค่ำ นี้นา
จงบอกเสนาให้จัดพร้อมพลพฤนทร์
          เถ้าแก่รับสั่งอ้างโองการ
บอกหมู่เสนามารพรั่งพร้อม
เสด็จสรงอุทกสนานทรงเครื่อง เสร็จนา
เถลิงรถรัตนมารห้อมแห่ล้วนขบวนเดิน
          ออกจากนิเวศน์เต้าตามมรร คาเฮย
ถึงประตูสวนขวัญหยุดยั้ง
ยุรยาตรพลับพลาพลันพลางทฤษ ดีนา
สบภักตรเยาวเรศตั้งจิตรจ้องชมโฉม
          งามลักษณวิลาศล้ำเลขา
ดุจอับศรกัญญาเยี่ยมยิ้ม
ลืมสนมนาฎสองนารีอรรค เรศเฮย
ดำฤษณปว่นปานปิ้มล่มล้างลาญทรวง
          ชมนางพลางเร่งร้อนใจลี ลาศนา
เถลิงแท่นทองมณีเพชรพร้อย
นั่งแทบพระลักษมีเสาวภาคย์
เหลือบเนตรชำเลืองช้อยขยิ่มยิ้มทยานใจ
          พระยามารพลางกล่าวถ้อยสนทร
รามลักษณ์คนสัญจรป่าไร้
เคียงถนอมแนบบังอรควรคู่ ไฉนนา
โฉมแม่ควรเชิดไว้หว่างเกล้าสาวสุรางค์
          แสนสนมสมบัติทั้งลงกา
พี่จะเศกสมมามอบด้วย
เชิญสมรแม่มาสาทรร่วม เรียมเฮย
รามซึ่งตามมฤคม้วยแม่นแล้วหลงไฉน
          นางลดับจับไม้ปักประจาน เปรียบนา
มึงประทุษฐจัณฑาลทั่วด้าว
ประมาทพระมาผลาญอสุรสัตว์ บาปเฮย
เทเวศรชุมเชิญท้าวท่านให้ไวยกูร
          วันลักกูลอบลี้จากศา ลาเฮย
หากพระตามมฤคคลาคลาศทิ้ง
ถ้าพระเสด็จกลับมาทันพบ ภักตร์แฮ
เศียรสิบคงขาดกลิ้งเกลื่อนด้วยศรทรง
          ทศกรรฐสดับพจนพร้องพระนาง เปรียบนา
ฟังยิ่งเพราะเพลินพลางกราบไหว้
จึ่งกล่าวมธุรศทางวอนว่า แม่เอย
จงชุบชีพเรียมให้ยืดช้าวันชม
          นางฟังแสนเจ็บช้ำคำมาร
ผินภักตร์พลางประจานเหม่ไม้
เองอย่าหมิ่นอวตารทรงจักร
พลางถ่มเฃฬะให้ราพแล้วผันขนอง
          หณุมานยลยักษเข้าพาที นางนา
คิดใคร่ผลาญชีวีวอดม้วย
เกรงเกินพระจักรีตรัสสั่ง มาแฮ
เหนบ่ปลงใจด้วยราพแล้วลิงเกษม
          ทศเศียรแสนเสนาะน้ำสำเนียง นางนา
คิดใคร่เอนองค์เอียงแอบน้อง
ตริพลางขยับเรียงรมย์ร่วม นางแฮ
ร้อนยิ่งเปลวเพลิงต้องเท่ห์ท้าวเหลือทน
          จึ่งเสด็จจากแท่นแก้วอลงกร
ขุกขู่นางงานสลอนอยู่ใช้
ผิวะมึงมิวอนสมรสมรรครัก กูนา
จักประหารมึงให้ชีพสิ้นสูญปราณ
          ตรัสพลางทางขึ้นราชรถทอง
กลับนิเวศน์วังหมองภักตร์เศร้า
เสด็จเหนือแท่นผธมตรองกรมโศก ถวิลแฮ
ไฉนจะสมสมรเจ้าแนบเนื้อนวลถนอม
          ฝูงกำนัลโกรธแค้นสีดา
ต่างกล่าวปริภาษสาหัศถ้อย
นางฟังอัดอุรากลืนเทวศ ไว้แฮ
แสนสลดละห้อยใคร่ให้ประไลยชนม์
          เงี่ยโสตรเงียบแซ่ซ้รองเสียงนาง กำนัลนา
ลงจากพลับพลาพลางรีบร้น
จรโดยสถลทางรันทด รทวยเอย
ถึงประทับสฐานต้นโสกไม้ในสวน
          พลางคนึงถึงบาทเบื้องอวตาร
เมียจักทำลายลาญชีพแล้ว
ฤๅพระจักทราบสารแสนโศก ทรวงนา
โอ้ว่ากรรมจำแคล้วคลาศเมื้อเมืองสรวง
          ร่ำพลางนางหน่วงขึ้นรุกฃา
ขุนกระบี่บังกายายอบเฝ้า
นางจับพระภูษาสวมกิ่ง โสกเฮย
รีบกระสันสอเข้าทอดทิ้งองค์ลง
          วายุบุตรฉุดเงื่อนแก้กัดกระสัน เฌอนา
วางพระนางพลางอัญชลิตน้อม
นางเผยผรุสลิงฉันใดโฉด เฉาเฮย
เองใช่การหาญด้อมดอดแก้กูไฉน
          ขุนสวาทูลว่าข้าธุลี บาทเฮย
ทหารพระจอมจักรีตรัสใช้
เหยียบนครเขตรยักษีสืบเหตุ พระนา
ทรงมอบธำมรงค์ให้กับผ้ามาถวาย
          นางยลแหวนพัตรร้อนรันทรวง
ขุกคิดจิตรตระขวงยักษ์แสร้ง
ออกโอษฐว่าลิงลวงลอบเปลี่ยน แปลงนา
ของตกกลางไพรแกล้งกล่าวให้กูฉงน
          ขุนกบี่ทูลถี่ถ้อยความลับ
ยามยกศิลป์เนตรจับเนตรไท้
นางฟังเชื่อนางรับภูษิต แหวนนา
ซ้ำโศกสั่งสารให้ทราบท้าวทูลสนอง
          สวาวอนเชิญเสดจท้าวอรไทย
เถลิงหัตถ์จักภาไคลคลาศเฝ้า
นางตอบว่าคิดไฉนผิดเยี่ยง อย่างนา
ยักษลักลิงภาเต้าโทษร้ายราคี
          หณุมานสดับถ้อยพลางทูล สนองนา
พระแม่อย่าอาดูรเดือดร้อน
นางฟังพจนลิงยูรยาตรพลับ พลาเฮย
ขึ้นสถิตยบัรรจ์ฐรณ์ข้อนอกอั้นกรรแสง

จบห้องที่ ๓๔

  เนื้อความกล่าวถึงหนุมานเหาะมาถึงอุทยานกรุงลงกาแล้วแปลงร่างเป็นลิงป่าแฝงต้นโศก เห็นนางผู้หนึ่งร้องไห้อยู่ก็แน่ใจว่าเป็นนางสีดา คิดคอยอยู่จนถึงเวลาค่ำปลอดคนจึงจะแอบเข้าไปทูลความ ฝ่ายทศกัณฐ์นับแต่พานางสีดามาอยู่ที่อุทยานจวนขวบปีแล้วมิได้พบหน้า คิดถึงนางจึงสั่งให้จัดขบวนไปหาในเวลาค่ำ เมื่อไปถึงก็เข้าไปนั่งข้างนางสีดา แล้วเล้าโลมให้นางปลงใจ นางสีดาฟังแล้วก็ปักไม้ด่าเปรียบเปรยอย่างรุนแรง แต่ทศกัณฐ์กลับรู้สึกชื่นใจ หนุมานซึ่งแอบอยู่เห็นทศกัณฐ์เกี้ยวพาราสีนางสีดาก็คิดจะฆ่าทศกัณฐ์ แต่เกรงจะเกินคำสั่งพระราม ทั้งเห็นว่านางสีดาไม่ได้ปลงใจรักใคร่ทศกัณฐ์ก็ยินดี ครั้นขยับเข้าใกล้นางสีดาก็รู้สึกร้อนจนทศกัณฐ์ทนไม่ได้ จึงขู่คาดโทษเหล่านางกำนัลที่เฝ้านางสีดาว่า หากไม่เกลี้ยกล่อมให้นางปลงใจรักตนก็จะฆ่าทั้งหมด แล้วกลับวัง เหล่านางกำนัลถูกคาดโทษเช่นนั้นก็โกรธ ต่างรุมด่าว่า ทำให้นางสีดาเจ็บช้ำใจถึงกับคิดปลงชีพตนเอง
  เมื่อนางกำนัลหลับกันหมดแล้ว นางสีดาก็ออกจากพลับพลามาที่ต้นโศก ผูกผ้าที่คอและพันกับกิ่งโศก แล้วทอดตัวลงมา หนุมานซึ่งแอบอยู่ก็โผนเข้าไปแก้เงื่อนที่ต้นโศกและรับนางสีดาลงมา ทูลว่าตนเป็นทหารของพระราม ได้รับบัญชาให้มาสืบข่าวและให้นำแหวนกับผ้าสไบมาถวาย แต่นางสีดาสงสัยว่าเป็นกลลวงของยักษ์ และกล่าวว่าหนุมานคงไปเก็บของที่ตกอยู่กลางป่ามาให้ หนุมานจึงทูลความลับตามที่พระรามแนะถึงครั้งที่พระรามสบเนตรกับนางสีดาเมื่อไปยกศร จากนั้นหนุมานก็ทูลว่าจะพานางสีดาเสด็จกลับ แต่นางเห็นว่าไม่สมควรเพราะจะเป็นที่ครหาว่ายักษ์ลักมาลิงพาไป หนุมานทูลปลอบนางสีดาแล้วทูลลา ฝ่ายนางสีดาก็กลับไปที่พลับพลา

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สุนทร”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “นางสดับจับไม้ปัก”